fbpx
//4 ขั้นตอนวางแผนก่อนยิงโฆษณา Facebook Ads อย่างมืออาชีพ

4 ขั้นตอนวางแผนก่อนยิงโฆษณา Facebook Ads อย่างมืออาชีพ

การทำธุรกิจออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จต้องมาคู่กับการยิงโฆษณาหากลุ่มเป้าหมายที่แม่นยำโดยเฉพาะบน Facebook และ Instagram ซึ่งมีการแข่งขันสูงและค่าโฆษณาแพงขึ้นเรื่อย ๆ หากใครไม่ได้วางแผนให้ดีก่อน ก็ยากที่จะใช้เงินได้อย่างคุ้มค่า 

วันนี้ adMATTERS จะมาบอกวิธีวางแผนยิงโฆษณาแบบเอเจนซี่ โดยแบ่งเป็น 4 ขั้นตอนด้วยกัน

1) ทำความเข้าใจธุรกิจ/สินค้าตัวเอง

การทำความเข้าใจจุดแข็ง-จุดอ่อนของสินค้าก่อนจะเริ่มต้นยิงแอดเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามยิ่งเข้าใจในตัวสินค้ามากแค่ไหน คุณก็จะสื่อสารจุดเด่นของสินค้าได้อย่างแจ่มแจ้ง นี่คือตัวอย่างหัวข้อที่คุณสามารถลิสต์ออกมาเพื่อทำความเข้าใจได้ดีขึ้น

  • จุดเด่นของสินค้า (Unique Selling Point) คืออะไร
  • สินค้านี้ ต้องการขายให้ใคร
  • สินค้าช่วยแก้ปัญหาอะไรให้ลูกค้า
  • สินค้าราคาเท่าไหร่
  • สินค้าจะขายผ่านช่องทางไหน (เว็บไซต์, แชท, หรือหน้าร้าน เป็นต้น)

2) สำรวจความต้องการลูกค้าเป้าหมาย

เมื่อรู้เราแล้วต้องรู้เขา การวางแผนโฆษณาที่ดีต้องยึดโยงพฤติกรรมของลูกค้าเป็นหลัก 

ลองนึกถึงลูกค้าที่คุณอยากขายของด้วยว่าเป็นคนยังไง ชีวิตประจำวันทำอะไรบ้าง มีเป้าหมายอะไรที่คุณหรือสินค้าของคุณจะช่วยให้เขาทำเป้าหมายได้ง่ายขึ้น ยิ่งเข้าใจลูกค้ามากเท่าไหร่ ก็มีโอกาสที่จะออกแบบชิ้นงานโฆษณาและกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ตรงกลุ่มได้มากขึ้น

การสำรวจความต้องการลูกค้าเป้าหมายทำได้หลายวิธีเช่น

  1. ทำแบบสำรวจความต้องการ (Survey)
  2. ดูเครื่องมือวิเคราะห์หลังบ้าน
  3. เว็บบอร์ดหรือ Facebook Group
  4. ช่องทางคู่แข่ง, พันธมิตร

3) จัดสรรงบโฆษณา

หลังจากคุณรู้แล้วว่าคุณมีจุดแข็งอะไร และลูกค้ามีพฤติกรรมอย่างไร ขั้นตอนต่อมาคือการใช้งบโฆษณาที่มีอยู่ให้คุ้มค่าที่สุด นั่นคือมองหากลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มจะซื้อสินค้ามากที่สุดก่อน เราแบ่งกลุ่มเป้าหมายเอาไว้ 3 ระดับได้แก่

Mass Audience 

กลุ่มเป้าหมายวงกว้างมีจำนวนมากที่สุด เช่น กลุ่มเป้าหมายตามความสนใจ (Interest)

Prospect Audience 

กลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มเป็นลูกค้า โดย Facebook สามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายที่อ้างอิงจากข้อมูลที่มีอยู่แล้วได้ เช่น การทำ Lookalike Audience หรือกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายคลึงกัน เป็นต้น

Core Audience 

กลุ่มเป้าหมายที่มีความเป็นไปได้ว่าจะซื้อสินค้ามากที่สุด เช่น คนที่เคยเข้าชมเว็บไซต์, คนที่เคยกรอกฟอร์มให้ข้อมูลส่วนตัว (Custom Audience)

4) กำหนดเวลาให้ชัดเจน

การวางแผนโฆษณาต้องมีลำดับเรื่องราวให้ดี  อย่าเสียเงินเปล่าโดยการโฆษณาโปรโมชั่นไปให้ลูกค้าที่ยังไม่รู้ว่าคุณขายสินค้าอะไร รวมถึงกำหนดงบประมาณให้โฆษณาแต่ละชิ้นเป็นสัดส่วนเท่าไหร่ซึ่งอาจไม่มีสูตรตายตัว ลองปรับเปลี่ยนแผนการไปตามสิ่งที่เกิดขึ้น ด้วยการวิเคราะห์จากตัวเลขสถิติแทนอารมณ์ความรู้สึกของคุณเอง

2020-01-13T18:03:36+07:00มกราคม 13, 2563|